ประวัติความเป็นมาของหนังใหญ่

จากการรวบรวมข้อมูลที่ได้มาในอินเทอร์เน็ต มีใจความว่าหนังชุดนี้มีอายุประมาณ
200 ปี รับงานแสดงมีชื่อเสียงอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย จนกระทั่ง พระยาศรีสมุทรโภค
ชัยโชติสงคราม (เกตุ ยมจินดา) ซึ่งเป็นคนเก่าที่มีชื่อหมายเลข 1 ของทำเนียบผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
แต่ไม่ระบุ พ.ศ. ที่ดำรงตำแหน่ง จึงไม่ทราบแน่ชัด ได้ทราบกิตติมาศักดิ์ของหนังใหญ่ชุดนี้
ซึ่งกำลังแสดงอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ก็ได้ติดต่อซื้อมาทั้งชุดประมาณ 200 ตัว และได้จ้างครูหนังหรือนายโรงนี้มาเป็นครูฝึกถ่ายทอดให้กับคนในปกครองของพระยาศรีสมุทรโภค
ชัยโชคชิตสงคราม เพื่อสืบทอดต่อมา ข่าวจากเครือญาติท่านเล่าว่า ในการนำหนังใหญ่ที่ซื้อจากจังหวัดพัทลุงมานี้ได้นำมาทางเรือแล่นข้ามอ่าวไทยฝ่าคลื่นใหญ่ลมแรง
หนังมนุษย์ซึ่งซ้อนอยู่ข้างบนบางตัวหล่นลงทะเล ต้องตามเก็บ ตัวสำคัญคือนางสีดา (นางเอก)
ช่วยกันหาอยู่นานก็ยังไม่พบผลสุดท้ายพบได้ คือติดอยู่ที่หางเรือสำเภา หนังที่ซื้อมาทางภาคใต้
จะเป็นฝีมือของช่างสมัยใด ที่ไหนไม่ทราบลายละเอียด ระยะหลังนำแสดงที่วัดจันทอุดม (วัดเก๋ง)
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลระยอง เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๓๑ มีการนำเข้าหนังใหญ่ชุดใหม่ที่ใช้แสดงในปัจจุบัน หรือก็คือ
หนังกลางวัน
หนังกลางวันหรือหนังปัจจุบัน คือการมหรสพอย่างหนึ่ง
ใช้หนังสลักเป็นรูปภาพคล้ายหนังใหญ่ แต่ระบายสีต่าง ๆ เชิดหน้าจอ แสดงในเวลากลางวัน
ใช้ปี่พาทย์และเกราะบรรเลงประกอบ ผู้เชิดกับผู้พากย์เป็นคนละคน.น. การมหรสพอย่างหนึ่ง
ใช้หนังสลักเป็นรูปภาพคล้ายหนังใหญ่ แต่ระบายสีต่าง ๆ เชิดหน้าจอ แสดงในเวลากลางวัน
ใช้ปี่พาทย์และเกราะบรรเลงประกอบ ผู้เชิดกับผู้พากย์เป็นคนละคน
ข้อมูลที่ได้จากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
ได้ใจความว่า หนังใหญ่นั้นจะนำแสดงในโอการ หรืองานรื่นเริงต่างๆ ทั้งในวัด
และนอกวัด โดยหนังใหญ่จะเป็นหนังที่ทำจากหนังสัตว์ เช่น วัวกับควาย แต่มีบางหนังผืน
ที่มีการเล่ากันมาบอกต่อปากว่าเป็นหนังคน คือหนังนางสีดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น