หนังใหญ่ในวัดดอนนี้ได้ถ่ายทอดการละเล่นและการเก็บรักษาเป็นช่วง
ต่อกันมา จนกระทั่งผู้ที่รับมอบเป็นครูหนัง คือ นายเรือง นางแจ่ม รื่นเริง ได้ฝึกลูกหลานและชาวบ้านได้เล่นสืบต่อมา
ปัจจุบันก็ใช้วง นายฉลอม พุทธมี และฝึกนักเรียนเข้าร่วมเล่นด้วย
เนื่องจากหนังใหญ่ชุดนี้เป็นมรดกตกทอดมานาน ลวดลายสวยงามและเข้าใจว่าเป็นฝีมือช่างหลวง
ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นมหรสพโบราณ ครูแรง
มหรสพที่มาเล่นงานเดียวกันต้องมาคารวะครูหนัง ดังนั้นเวลาเก็บไว้ที่วัดจะเก็บไว้ในที่สูง
ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปเล่นหรือรบกวน ภัยธรรมชาติอาจทำให้สูญเสียไปตามกาลเวลา ตับคาบตัวหนังทำด้วยไม้ผุกร่อนได้ง่าย
จึงจำต้องดูแลใกล้ชิด คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาดูแล หลังจากว่างเว้นการแสดงมานานหนังเก่าจึงผุพังลดจำนวนลงไป
พร้อมๆกับคนรุ่นเก่าที่สูญเสียชีวิต เราเห็นความสำคัญควรอนุรักษ์และสืบทอดมรดกไทย จึงได้ฟื้นฟูดังปรากฎในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นในระยะหลัง ในคราวประกวดหมู่บ้านดีเด่น หมู่ที่ 1 ตำบลเชิงเนิน
อำเภอเมืองระยอง (บ้านชากใหญ่) พ.ศ.2523 ได้นึกถึงงานศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นที่เคยแสดงกันมา จึงได้ฟื้นฟูฝึกซ้อมหนังใหญ่ออกแสดง
ทั้งงานหมู่บ้าน งานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี
งานสงกรานต์และเผยแพร่รายการโทรทัศน์ช่อง 5 ในปีพ.ศ. 2524
มีคณะกรรมการฟื้นฟูดูแลเป็นคณะกรรมการอนุรักษ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน
ช่วงนั้น ปู่สี รื่นเริง เป็น-นายโรง และชราภาพจึงได้มอบ นายเฉลิม มณีแสง และ นายเจิม
ขอบ อรัญ รับช่วงเป็นนายพากย์
และผู้พากย์ ฝึกซ้อม และนำออกแสดงเผยแพร่ตามโอกาส ทางวัดบ้านดอน
มีโครงการสร้างอาคารเก็บหนัง และซ้อมตัวหนังเพิ่มเติมจากที่ชำรุด
พระครูปัญญาวุฒิกร อดีตเจ้าอาวาส ได้สร้างอาคารที่เก็บไว้ 1 หลัง และเปิดใช้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2534 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย
จำกัด ได้มาทอดกฐินวัดบ้านดอนร่วมกับชาวบ้าน ต่างก็ชื่นชมและอนุรักษ์หนังใหญ่ไว้สืบไป
เมื่อมีอาคารเก็บหนังเก่า ก็คาดว่าตัวหนังจะคงอยู่ไปได้อีกนาน
จึงได้ปรับปรุงไม้หนีบตัวหนัง (ตับหนีบ)
จากเดิมซึ่งเป็นไม่ไผ่ ไม้หมาก ให้เป็นไม้เหลาชะโอน ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่ทนทานและศึกษาเรื่องการเก็บรักษา
เห็นว่าการเก็บแบบวางเรียงคงจะสภาพดีจึงทำที่เก็บเพื่ออนุรักษ์ไว้ใช้เป็น ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า
และคิดสร้างตัวหนังใหญ่โดยการลอกแบบ เลือกตัวหนังตามเรื่องราวที่ นายอำนาจ มณีแสง
ได้รับถ่ายทอดมาจาก นายเฉลิม มณีแสง ซึ่งเป็นครูหนัง
โดยร่วมมือกับผู้ที่คณะกรรมการมอบหมาย คือ นายประเทือง เขตสมุทร พท. พายับ
เป็นธรรม นายอุดม นัทธีประทุม และ นางสาว อุษา โชติกุล
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินครราชสีมา ดำเนินการลอกแบบและติดต่อช่างจัดทำ
ทางวัดก็พยายามหาทุนทรัพย์จับจ่ายไป ได้รับความร่วมจากทุกฝ่าย
ได้ตัวหนังใหม่มาร่วมแสดงกับตัวหนังเก่าอีก 77 ตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น